Category : Happy+

สติ๊กเกอร์

by : Admin      2017-11-17      Happy+      1 comments

นิตยสาร Happy+ Nov 2017

ยุคนี้เป็นยุคแอพ ! แอพนี้ไม่ใช่แอ๊บแบ๊วของเด็ก ๆ ที่น่าเอ็นดูนะครับ แต่เป็นแอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมต่าง ๆ ในแทปเลตต์ หรือสมาร์ตโฟนให้คนได้โหลดใช้ที่มีทั้งให้โหลดกันฟรี  (แล้วบางทีก็มีไปเก็บค่าโฆษณา หรือไปขายไอเต็มเพิ่มข้างใน) มีทั้งแบบโหลดเสียเงินกัน จนธุรกิจนี้กลายเป็นธุรกิจยอดนิยมเพราะหากทำออกมาสำเร็จแค่แอพเดียวนี่ก็อาจรวยได้เลย ซึ่งโอกาสแห่งความสำเร็จนี้ยังขยายไปยังสินค้าต่อเนื่องด้วย ที่ถ้าทำดีก็รวยมหาศาลได้เช่นกัน ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็เห็นจะเป็น "สติ๊กเกอร์" ที่ต่อเนื่องมาจากแอพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง   แอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีผู้ไปขอร่วมแบ่งปันโอกาสแห่งธุรกิจนี้ด้วยเป็นจำนวนมาก

สติ๊กเกอร์นี้ไม่ใช่กระดาษ หรือพลาสติกกาวที่สมัยเด็ก ๆ เราลอกเอาติดข้างฝาหรือข้าวของต่าง ๆ นะครับ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่ไว้ใช้สื่อสารกันในโลกออนไลน์ที่ส่วนมากมักทำในรูปของตัวการ์ตูนน่ารักหลากหลายรูปแบบให้คนได้ (ซื้อ) หาไปใช้ โดยมีการสร้างสรรค์สติ๊กเกอร์ให้ออกมาเป็นตัวแทนของการพูดคุยในชีวิตประจำวันในแทบจะทุกลักษณะ ทั้งเที่ยว ทั้งทำงานเรียกว่าครบถ้วนจนเกือบจะน่ากลัวว่าต่อไปมนุษย์อาจไม่ต้องใช้ภาษาพูดกันแล้ว เพราะมีสติ๊กเกอร์ให้ใช้ถาม ให้ใช้ตอบกันหมดแล้ว

มองมุมหนึ่งก็น่าเอ็นดูดีครับ ลองนึกดูแทนที่เมื่อเพื่อนถามในไลน์มาว่า "กำลังทำอะไรอยู่" แทนที่เราจะพิมพ์ตอบไปว่า "กำลังกินข้าว" เรากลับใช้ตัวการ์ตูนหมีน่ารัก ๆ กำลังกินน้ำผึ้งอยู่ส่งไปให้ แบบนี้ก็สบายตา สบายใจกันดี และด้วยความน่าเอ็นดูนี้บวกกับความสามารถ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สื่อถึงอารมณ์ที่ต้องการส่งต่อให้ผู้รับได้โดนใจมากกว่าการเขียนที่บางครั้งอาจติดขัดด้วยข้อจำกัดของภาษาหรือติดขัดกับบุคลิก ผู้ที่ต้องการจะสื่อสารเองที่อาจไม่เหมาะกับการพิมพ์คำอะไรน่ารัก คิกขุ บวกกับวิถีของโลกที่ทุกอย่างเร็วขึ้น

การใช้สัญลักษณ์แทนการมานั่งจิ้มอักษรยาว ๆ จึงเป็นคำตอบที่โดนใจคนจำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันตลาดการขายสติ๊กเกอร์ ที่ดูจะเป็นของเล่น ๆ นี้จึงไม่ใช่ของทำเล่น ๆ อีกต่อไปสติ๊กเกอร์กลายเป็นช่องทางหารายได้ทั้งรายได้เสริมไปถึงรายได้หลักให้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมาก ขอเพียงมีไอเดียดี มีความสามารถในการแต่งภาพเสียหน่อย ทำสติ๊กเกอร์ในแบบของตัวส่งไปให้ไลน์เขาพิจารณานำขึ้นขายให้ก็พอเพียงแล้วที่จะเปิดโอกาสประสบความความสำเร็จ เพราะหากของเราดีจริง คนเห็นแล้วชอบ ใช้แล้วเพื่อนถามก็จะเกิดการขายขึ้นจนน่าพึงพอใจ

และที่สำคัญยิ่งคือธุรกิจนี้แทบจะไม่ต้องใช้เงินลงทุน ต้นทุนมีเพียงจินตนาการและเวลาเท่านั้น ทั้งเวลาก็ทำได้ตามความสะดวก สมองตื้อก็หยุด เหนื่อยก็พัก ทำได้จากทุกที่ไม่ต้องเดินทางไปทำที่สำนักงาน นั่งอยู่บ้านสเก็ตรูป ตกแต่งไปเรื่อย ๆ เสร็จแล้วก็ส่งไปขาย ขายได้เงินก็โอนเข้าบัญชีไว้ใช้สอย นี่จึงเป็นธุรกิจที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ "ผู้สูงอายุ" อ่านไม่ผิดหรอกครับ ธุรกิจนี้เหมาะกับผู้สูงวัยจริง ๆ ไม่ใช่เหมาะแค่เฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะทางไลน์เขาก็ไม่ได้กำหนดว่าผู้จะส่งสติ๊กเกอร์ไปให้เขาขายจะต้องมีอายุไม่เกินเท่าไหร่  ขอเพียงงานผ่านตามเกณฑ์เขาก็พร้อมจะขึ้นขายให้ ถ้าจะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงที่ผู้สูงอายุอาจไม่ถนัดในการใช้เทคโนโลยี แต่ของเช่นนี้ไม่เป็นก็ฝึก ก็สอนกันได้ไม่ถึงกับเป็นเรื่องเกินวิสัยแต่อย่างใด  และในความเป็นจริงก็มีแล้ว มีกลุ่มผู้สูงอายุ 60-70 ปีมารวมตัวกันสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ขายกันจริง ๆ !

ผู้สูงอายุกลุ่มนี้อยู่ที่  ต.สมอแข จังหวัดพิษณุโลกครับ พวกท่านมารวมตัวกันทุกบ่ายวันพุธ เพื่อเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นการแต่งภาพเพื่อนำการ์ตูนจากไอเดียของสมาชิกสูงวัยในกลุ่มมาทำเป็นสติ๊กเกอร์ โดยทั้งหมดนี้อยู่ในการดูแลของคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยพิษณุโลกที่จัดอาจารย์จากคณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปสอนวาดรูป สอนการตกแต่งการ์ตูน สอนการวางแผนการตลาด สอนการสื่อสารกับไลน์ให้จนเมื่อจบโครงการผู้สูงอายุจากสมอแขกลุ่มนี้จะมีชุดสติ๊กเกอร์ส่งไปให้ทางไลน์พิจารณา ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรจะได้ขาย จะขายได้มากหรือน้อยเพียงใดไม่ใช่ประเด็นแล้ว เพราะแค่การที่ผู้เฒ่าของเราไม่หยุดนิ่ง ไม่ยอมแพ้เทคโนโลยี พยายามปรับตัวทั้งยังพยายามใช้ประโยชน์จากมันได้ขนาดนี้ต้องถือเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกลุ่มอื่น ๆ อีกจำนวนมหาศาล เป็นการแสดงให้เห็นว่า แม้จะสูงวัยแล้วใช่จะต้องไปอยู่ชายขอบของสังคมเสมอไป ขอเพียงมีทัศนคติที่ถูกต้อง ชีวิตย่อมเดินต่อได้อย่างเต็มภาคภูมิ ที่สำคัญนี่เป็นการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยอันเป็นปัญหาระดับโลกได้อย่างบูรณาการและถูกทาง ถูกทั้งการแก้ปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจครัวเรือนที่ผู้สูงอายุอาจจะได้มีรายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ มาไว้ใช้จ่าย และถูกที่สุดคือเป็นการแก้ปัญหาความรู้สึกไร้ค่าด้วยการคืนศักดิ์ศรีความเป็นสมาชิกในโลกยุคไอทีนี้ให้แก่ท่าน เป็นอย่างไรครับ เรื่องเล่น ๆ แต่เป็นเรื่องให้คุณค่าแก่ชีวิตของสังคมผู้สูงอายุทั้งปวงเลย แบบนี้เรียกว่า "เล่นจนเป็นเรื่อง" ได้ไหมครับ

ชมรมผู้สูงอายุชมรมไหนจะนำไปประยุกต์ใช้บ้างก็เข้าทีนะครับ


แสดงความคิดเห็น