Category : โบนัสแห่งวัย

Bonus Meditation

by : Admin      2018-04-14      โบนัสแห่งวัย      0 comments

โบนัสแห่งวัย Apr 2018


14 จังหวะ เจริญสติตามแนวทางหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ คนเราทุกข์เพราะความคิด !!

นี่เป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ และใครที่สามารถจัดการกับความคิดได้เขาผู้นั้นย่อมไม่ทุกข์  จัดการในที่นี้มิได้หมายถึงการไม่คิด แต่หมายถึงการจัดการในลักษณะที่เป็นนายเหนือความคิด สามารถเลือกที่จะคิดเรื่องที่ควรคิด ขณะเดียวกันก็สามารถ ”หยุด” ที่จะคิดเรื่องที่ไม่ควรคิดได้  แต่จะทำอย่างไรล่ะ ? ก็รู้ทั้งรู้อยู่แต่มันก็หยุดความคิดไม่ได้ จะตัด จะปล่อยก็มีความกังวล ความกลัวอยู่ ต้องคิดต่อไปให้จบ นั่นเป็นข้ออ้างครับ เพราะความจริงแล้วความคิดที่นำทุกข์มาให้นี้คิดอย่างไรก็ไม่มีวันจบ จะคิดซ้ำไป ซ้ำมา วนเวียน ย้ำคิดแล้วคิดอีกเป็นวังวนไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากความคิดหรือความทุกข์ได้ และหลายกรณีการคิดวนจบไม่ลงนี่แหละที่กดดันผู้ที่รู้ไม่เท่าทันนี้ทนรับสภาพไม่ไหว เลยเถิดกลายเป็นการหนีปัญหา(ความคิด)ด้วยวิธีการรุนแรงเด็ดขาดเลย หรืออย่างเบาก็กลายเป็นคนอมทุกข์ หาความสุขได้ยาก ขี้กลัว ขี้กังวลไปสารพัด ถ้าไม่ห่วงเรื่องอนาคต ก็ไปดึงเรื่องอดีตมาโหยหา คุณประโยชน์ของความคิดมีมาก ทำให้โลกพัฒนามาได้ถึงจุดนี้ ทำให้ชีวิตเราขึ้นมายืนอยู่บนตำแหน่งขณะนี้ แต่โทษของความคิดก็มีมหันต์หากไม่รู้จักมัน ไม่เข้าใจมัน แต่การจะรู้ เข้าใจความคิด “กลไก” การทำงานของมันได้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ ต้องมีการฝึกฝนครับ 


โบบัสแห่งวัย ฉบับนี้จึงขอแนะนำการฝึกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้คุณ “เห็น” ความคิด(ไม่ใช่รู้เรื่องที่คิดอันเป็นปกติอยู่แล้ว) ซึ่งเมื่อฝึกจนเห็นความคิดแล้วคุณก็จะสามารถจัดการมันได้ เลือกที่จะคิดเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการงาน กับชีวิตจบแล้วก็จบกัน วางแผนแล้วก็นำไปปฏิบัติ ไม่ได้มาย้ำคิด ย้ำทวน ส่วนความคิดที่ “ลัก(ขโมย)คิด” ความคิดจรเป็นชนิดที่นำทุกข์มาให้นั้นคุณก็จะเห็นทันมันและหยุดมันได้ก่อนที่มันจะพาคุณคิดเตลิดเปิดเปิงจนหยุดไม่อยู่ วิธีการนี้เรียกว่า


“การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว ในแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ” หรือที่ต่างประเทศนิยมเรียกว่า Dynamic Meditation ครับ 


หลวงพ่อเทียนนั้นท่านถือว่าเป็น “ปรมาจารย์” ในการเจริญสติ รูปแบบที่ท่านนำมาถ่ายทอดนั้นผู้ปฏิบัติ(ที่มีความอดทน)จำนวนมากปฏิบัติเพียงไม่นานก็สามารถจัดการกับความคิดได้มากขึ้น อันหมายถึงความทุกข์ลดลงทันตาเห็น ทั้งยังเป็นการลดแบบถอนราก ถอนโคน คือจัดการที่ต้นตอของทุกข์คือความคิดโดยตรง ไม่ใช่การเบี่ยงเบนทุกข์ไปกับกิจกรรม งานการอื่นๆที่ทำให้ลืมเรื่องที่ทุกข์ได้ชั่วคราว แต่สุดท้ายเมื่อเหตุยังอยู่เดี๋ยวมันก็กลับมาหลอกหลอนให้เราทุกข์ต่อได้อีก
หลักการของวิธีนี้ก็คือการใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นหลักของความรู้สึกตัว ใช้การเคลื่อนไหวมือ หรือที่เรียกว่าการสร้างจังหวะมือ สลับกับการเดินจงกรมเพื่อฝึกสติ


โดยการสร้างจังหวะมือนั้นจะมีรูปแบบอยู่ทั้งหมด 14 ท่า(ตามรูปประกอบ)ให้เคลื่อนมือตามแต่ละท่าแล้วเติมความรู้สึกตัวเข้าไปด้วย ในจุดสิ้นสุดท่าจะมีการหยุดนิ่งเล็กน้อยก็ให้เติมความรู้สึกถึงการหยุดนั้นเช่นกัน ซึ่งจะต่างจากชีวิตที่เราคุ้นชินคือมักตกอยู่ในโลกของความคิดอยู่ตลอด ที่แม้เราจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดวันแต่เราแทบจะไม่เคยรับรู้ถึงการเคลื่อน หรือความเป็นไปของร่างกายเราเลย ไม่เชื่อลองถามตัวเองดูซิครับ ว่าคุณรู้ไหมว่ากำลังนั่งอยู่ท่าไหน ? ถ้าไม่หลอกตัวเองก็ร้อยทั้งร้อยแหละครับ ที่เราไม่สนใจตัวของเรานี่เลย เพราะเราเอาแต่จมอยู่กับโลกของความคิด โลกในจินตนาการ ซึ่งการมาฝึกเคลื่อนไหวแล้วรู้สึกเช่นนี้ จะทำให้จิตเรามีกำลังมากขึ้นตามระยะเวลาของการฝึก ตามความขยัน และต่อเนื่องของเราที่ทำให้จิตใจมีกำลังก็เพราะหลักพื้นฐานที่ว่า เมื่อคิดย่อมไม่รู้ เมื่อรู้ย่อมไม่คิด รู้ กับ คิดเป็นของตรงข้ามกันครับ ไม่เชื่อคุณลองทุบต้นขาตัวเองถี่ๆดูด้วยน้ำหนักพอควรซิครับ เมื่อเราใส่ใจที่จะรู้สัมผัสตุ๊บ…ตุ๊บตามจังหวะที่สัมผัส เมื่อนั้นคุณจะคิดไม่ได้(แต่หากทำให้ชินระยะหนึ่งจิตจะแอบไปคิดได้ทั้งๆที่ทุบอยู่ เราจะลืมรู้สึกถึงการกระทบไป) 


และหลังจากจิตมีพลังแล้ว เมื่อมีความคิดจรผุดขึ้นมาในจิต จิตจะเห็นและเลือกที่จะคิดต่อ หรือปฏิเสธแล้วกลับมาที่ความรู้สึกตัวได้ เริ่มแรกๆอาจจะรู้ทันความคิดจรได้ไม่มาก 10 เรื่องอาจทันเพียงเรื่องเดียว แต่หากไม่ท้อฝึกไปไม่นานจะเพิ่มขึ้นมาก จนท้ายที่สุดคุณจะสามารถพ้นทุกข์จากความคิดได้แบบเบ็ดเสร็จทีเดียว  อยากมีความสุขจากการไม่เป็นทาสความคิด ก็ลองขยันฝึกตามรูปดูนะครับ โบนัสแห่งวัย ขออวยพรให้คุณเป็นอิสระจากความคิดในเร็ววันนี้ครับ


แสดงความคิดเห็น