Intania Jan 2014
ช่วงปลายปีต่อต้นปีเช่นนี้เป็นช่วงแห่งความสุขของหลาย ๆ คน ลมหนาวที่โชยเข้ามาแม้จะไม่เย็นจัดทั้งยังเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ก็พอให้คนที่อยู่ในเขตร้อนอย่างพวกเราได้อิ่มเอมกับบรรยากาศเนิบ ชิล เนรมิตความรู้สึกแสนโรแมนติกสุดพิเศษให้เกิดขึ้นได้ อีกทั้งสารพัดงานเลี้ยงประจำปีที่มักจะจัดกันช่วงนี้ก็ทำให้ได้บันเทิงเริงใจกันบ้างหลังจากเครียดกันมาตลอด 12 เดือน ที่สำคัญด้วยสมมติแห่งการเปลี่ยนปีพ.ศ.ก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เกิดความหวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่นี้จะมีสิ่งดี ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต เป็นช่วงที่ใช้เติมเต็มชีวิตด้วยความฝันก่อนจะต้องเผชิญกับความจริง (ที่มักจะไม่ตรงกับความฝัน) ในปีต่อไป ลูกจ้าง พนักงานก็หวังจะได้เงินเดือนปีใหม่นี้เพิ่มขึ้นเยอะ ๆ แถมโบนัสก้อนโต ๆ กับตำแหน่งที่สูงขึ้น
มนุษย์เงินเดือนก็หวังเปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้าของกิจการ
เจ้าของกิจการก็หวังยอดขายให้เติบใหญ่แบบก้าวกระโดด
นักลงทุนก็หวังขยายสาขา โรงงาน บุกตลาดโลกกัน
นั่นเป็นความหวัง และความฝันมาตรฐานของคนในวัยทำงาน แล้วถ้าไม่ได้ทำงานแล้วเป็นคนวัยเกษียณล่ะปีใหม่นี้ควรหวังอะไรดี ?
คำตอบที่ถูกต้องสำหรับชาวพุทธก็คือหวังว่าชีวิตปีใหม่นี้จะมีความสุขมากขึ้น มีปัญญาสะสมไว้เป็นเสบียงเพื่อเดินทางต่อไปสู่ที่สุดแห่งความสุขหรือนิพพานในเวลาอันใกล้ หรืออย่างน้อยก็ปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้น เป็นทุกข์จากความร้อยรัดของ “กิเลสตัณหา” น้อยลง พอได้ยินคำว่ากิเลสตัณหานี่แล้วหลายท่านก็คุ้นจนนึกว่าเป็นคำ ๆ เดียวกัน เป็นคำสร้อยที่ต่อกัน รวมถึงวลีอย่าง “กิเลส 1500 ตัณหา 108” ด้วยที่ได้ฟังแล้วก็เหมือนเป็นการสร้างคำสวยของนักกลอน นักประพันธ์ชั้นครูไป ที่จริงแล้วกิเลสกับตัณหานี้เป็น 2 คำที่ต่างกันครับ หรือจำนวนกิเลสและตัณหา พันห้า ร้อยแปดนี้เป็นจำนวนจริงที่ระบุในตำราไม่ใช่คำแต่งแต่อย่างใด ซึ่งในฐานะชาวพุทธก็ควรที่จะทราบที่มาของจำนวนนี้ไว้บ้างเพื่อที่เมื่อถึงเวลาต้องทำงานขูดเกลา ขจัดกิเลสจะได้ทราบแหล่งก่อกำเนิดศัตรูร้ายของชีวิตตนนี้ จะได้จัดการได้อย่างมีประสิทธิผล เริ่มจากความหมายของกิเลสกันก่อน กิเลสนั้นหมายถึงสิ่งที่ทำให้จิตเร่าร้อนมี 3 ระดับ คือ อย่างหยาบ (วีติกกมกิเลส) ที่บงการให้ทำผิดทางกาย วาจาสามารถกำจัดได้ด้วยการมีศีล อย่างกลาง (ปริยุฎฐาน) ยังไม่ถึงกับบงการให้แสดงออกทางกายกับวาจาได้เกิดอยู่ในจิตสามารถกำจัดได้ด้วยสมาธิ และอย่างละเอียด (อนุสัย) จะนอนเนื่องอยู่ในจิตเป็นเชื้อที่จะก่อให้เกิดกิเลสในขั้นที่สูงขึ้นสามารถกำจัดได้ด้วยปัญญา
สำหรับประเภทของกิเลสนั้นมี 10 อย่างได้แก่
1. โลภะ ความรัก ความพอใจ
2. โทสะ ความโกรธ ความไม่พอใจ
3. โมหะ ความหลง ความไม่รู้
4. มานะ ความถือตัว
5. ทิฏฐิ ความเห็นผิด
6. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
7. ถีนะ ความหดหู่
8. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
9. อหิริกะ ความไม่ละอายต่อความชั่ว
10. อโนตตัปปะ ความกลัวต่อบาป
กิเลสสามารถเกิดได้ที่จิต 1, เจตสิก 52 และรูป 22 รวมเป็น 75 ดังนั้นจึงมีกิเลสได้ทั้งหมด 10 * 75 = 750 และเกิดได้เป็นในตัวของเราเองกับในตัวของคนอื่นก็คือคูณ 2 ไป จึงกลายเป็นกิเลส 1500 ดังกล่าว
ส่วนตัณหานั้นหมายถึง อาการทะยานอยากในอารมณ์ต่าง ๆ มี 3 ประเภทคือ
กามตัณหา ความอยากในรสสัมผัสต่าง ๆ
ภวตัณหา ความอยากเป็น ความอยากอยู่ในสภาวะใด ๆ
วิภวตัณหา ความไม่อยากเป็น ความอยากพ้นไปจากสภาวะใด ๆ
ตัณหาอาศัยอารมณ์เกิดได้ 6 ช่องทางคือรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสและอารมณ์ทางใจจึงกลายเป็น 3 คูณด้วย 6 จึงเป็น 18 และเกิดได้ใน 3 กาลคือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จึงคูณไปอีก 3 กลายเป็น 54 และเช่นกันคือเกิดในตนเองและกับคนอื่นก็คูณไปอีก 2 กลายเป็นตัณหา 108 ที่แจกแจงมาไม่ใช่เพื่อให้ท่องจำเอาไปทำข้อสอบแต่อย่างใด แต่อยากให้เวลาพูดหรือได้ยินวลีคุ้นเคยนี้จะได้ระลึกว่ามันมีกิเลสอยู่ 1500 มีตัณหาอยู่ 108 จริง ๆ ที่คอยจ้องขย้ำเราให้เป็นทาสอยู่ ที่เมื่อรู้แล้วก็ต้องจัดการเพราะกิเลสเป็นของน่ารังเกียจที่ไม่ควรเก็บไว้นานควรหาวิธีกำจัดเสียโดยไว
ซึ่งวิธีรวบยอดก็คือการมี “สติ” นั่นเองเพราะสตินั้นโดยธรรมชาติของมันมีหน้าที่ในการป้องกันความชั่วร้ายอยู่แล้ว ซึ่งการจะมีสติได้นั้นก็ต้องใช้การเจริญสติ ที่อาจคุ้นหูกันก็คือการเจริญสติปัฏฐาน 4 ขยายความอีกหน่อยคือการหมั่นมาระลึกรู้ของ 4 อย่างได้แก่ ร่างกาย ความรู้สึก จิตใจ และธรรมชาติ หมั่นเวียนมาระลึกรู้ในขอบเขต 4 อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ท่านว่าจะทำให้เกิดความสมบูรณ์ของการปฏิบัติธรรมนำไปซึ่งจุดมุ่งหมายสูงสุดคือพ้นไปจากกิเลสและตัณหา ฟังเหมือนง่ายแต่เอาเข้าจริงไม่ง่ายครับ ไม่เชื่อลองถามแล้วตอบตัวเองดูว่าตอนนี้เรารู้อะไรใน 4 อย่างนี้ไหม ถ้าไม่โกหกตัวเองหรือเข้าใจอะไรผิดไปเองเชื่อว่าหลายคนจะไม่รู้ครับ เราไม่ค่อยรู้ว่าตอนนี้เรานั่ง ยืนเดินอย่างไรอยู่ เราไม่ค่อยรู้ว่าตอนนี้เราสุขเราทุกข์ เราไม่ค่อยรู้ว่าจิตใจเป็นอย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเราไม่ค่อยรู้ธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ
เรามักรู้กันแต่เรื่องที่คิด เรื่องที่อยากได้ และนั่นเองคือสิ่งที่บงการเราให้ไปก่อกรรม กระทำการเพื่อมาตอบสนองความอยาก (ตัณหา) นั้น ลองกันดูนะครับ รู้ทฤษฏีแล้วว่ากิเลสมี 1500 ตัณหามี 108 ตอนนี้มารู้วิธีการกำจัดภาคปฏิบัติของจริงกัน เมื่อรู้และทำจริงจะได้ผลเป็นความสุขจริงครับ
© 2016 - Kid-Mai All Rights