คลีนิกนฤมิต

คลีนิกนฤมิต

เทคโนโลยีทำให้เราเสมือนติดต่อกันได้สมจริงขึ้นทุกวัน


จากสมัยดึกดำบรรพ์ที่การจะทำให้เรานึกภาพสถานที่หรือบุคคลออกต้องอาศัยความสามารถในการเล่าเรื่องให้ผู้ฟังจินตนาการได้อย่างสูงมาก จนเราเริ่มมีวิวัฒนาการด้านการเขียน ทำให้เราพอจะวาดภาพถ่ายทอดสิ่งที่เราเห็นให้คนอื่นเห็นตามได้ดีขึ้น ก่อนเราจะมีเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่สามารถบันทึกภาพให้คนเห็นจริงตามได้แบบไม่ผิดเพี้ยน เลยไปถึงเรามีโทรทัศน์ที่ไม่เพียงให้ภาพนิ่งแต่ยังเคลื่อนไหวให้เห็นวิถีที่เกิดขึ้นได้กันจริง ๆ ที่ก็พัฒนาความเสมือน สมจริง คมชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนเราแทบแยกไม่ออกกันทีเดียว ซึ่งความเสมือนจริงนี่เองทำให้เราเข้าใจอีกด้านได้มากขึ้น ไม่ต้องคิดปรุงแต่ง จินตนาการเอาเองว่าเขาเป็นอย่างไร ทำอะไร แสดงออกอย่างไร

ที่เป็นอยู่ก็ว่าล้ำจนสนองตอบความเป็นไปมากแล้ว แต่ปัจจุบันกับเทคโนโลยีล่าสุดคือ Metaverse หรือจักรวาลนฤมิต กลับยิ่งเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิถีสังคม ที่จะมาเปลี่ยนโลกนี้อีกครั้ง เพราะมันไม่ได้มอบความเสมือนจริงให้เพียงแค่ระนาบ 2 มิติ ที่ยังมี 2 ฟากของการติดต่อ แต่มันมอบให้ในแบบตาเราเห็น 3 มิติจริง ๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือสถานที่เดียวกัน ก่อให้เกิดความเข้าใจกันในแบบแทบไม่ต่างจากการมาเจอกันจริง ๆ

ทุกวันนี้เราเรียกร้องความชัดสมจริงของภาพกันแค่ไหน ต่อจากนี้เราจะไม่เพียงเรียกหาแค่ภาพแต่เราจะเรียกหาโลกที่เสมือนจริงกันทีเดียว!!

นี่ล่ะครับความสำคัญของเทคโนโลยีเมตาเวิร์สนี้ที่มันกำลังจะเป็นกระแสหลักของโลกที่ทำให้แม้แต่มาร์ก ซัลเคเบิร์กยังต้องเปลี่ยนขื่อบริษัทเฟซบุ๊กอันโด่งดังของเขาเป็นเมตาเพื่อมารองรับโลกโซเชียลใหม่นี่ มันไม่ใช่เป็นเพียงเกม VR อย่างที่เรารู้สึกกัน แต่เป็นวิถีการใช้ชีวิตใหม่ของคน 8 พันล้านคนทั่วโลกที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในจักรวาลนฤมิตนี้

เราจึงไม่ควรประมาทว่านี่เป็นเรื่องของเด็กเล่นเกม แต่ควรตระหนักว่านี่คือเรื่องของอนาคตอันใกล้ที่จะกระทบตัวเรา งานของเราแน่นอน

และเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นผมขอนำภาพจากที่เมื่อหลายเดือนก่อนผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Adipat Virdi ที่เป็น Chief engineer ที่ดูแลการพัฒนาเทคโนโลยี metaverse ของ Meta มากฝากนะครับ

ผมชอบมาก ๆ กับคำนิยามของเขาว่า meraverse นั้นคือ Emp. Tech. หรือ Empathy Technology เทคโนโลยีที่สร้างความเข้าใจขึ้นระหว่างผู้ใช้ ที่เมื่อนิยามกันแบบนี้ทำให้เปลี่ยนความคิดว่าเมตาเวิร์สเป็นสักแต่เกม VR ให้เด็ก ๆ เล่นไปโดยสิ้นเชิง ทั้งยังกลับด้านกันเพราะไม่ใช่เกมไม่มีสาระแต่กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดสาระอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในโลกยุคที่ต่างคน ต่างโตจนก่อเกิดสภาพความโหยหาความเป็นมนุษย์ ความเสมือนจริงเช่นทุกวันนี้

คำถามเมื่อครู่ว่าชอบมากแล้ว คำถามต่อมาที่เขาให้ไว้ยิ่งทำให้สะดุดใจได้อีกมากเพราะเขาให้ถามว่า ธุรกิจของเรานั้นความเช้าใจเป็นปัญหาไหม หากเป็นเมตาเวิร์สอาจสามารถช่วยแก้ได้ แต่หากไม่เป็นก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องดิ้นรนลงทุนไปให้สิ้นเปลืองที่จะได้แค่ภาพลักษณ์ตามมา

ซึ่งจากคำถามนี้ทำให้เราตอบโจทย์ที่ไลฟ์กันว่านี้ว่าจักรวาลนฤมิตจะมาเกี่ยวกับงานสุขภาพได้อย่างไรได้อย่างง่ายดาย เพราะงานสุขภาพหรือให้เจาะจงคือการรักษาพยาบาลนั้นมีความต้องการความเข้าใจอย่างมากมาย ลำพังเพียงความรู้ทางการแพทย์นั้นแม้อาจจะทำให้วินิจฉัยอาการเบื้องต้นได้แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับการได้ไปพบแพทย์กันจริง ๆ เพราะแพทย์สามารถสังเกตุ เห็น และเข้าใจอาการได้มากขึ้น ซึ่งเมตาเวิร์สมาเติมเต็มตรงนี้ครับ ว่าหากไม่สามารถเจอแพทย์ตัวเป็น ๆ ได้ ก็ไปเจอในคลีนิกเวิร์สของแพทย์ท่านนั้นย่อมดีกว่าเพียงการโทร.ปรึกษา หรือแม้แต่วิดีโอคอลล์กัน เพราะมันไม่เพียงเห็นอากัปกริยาได้ชัดแต่ยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกันทำให้การสื่อสารนั้นชัดเจนขึ้นมาก นี่ไม่รวมถึงหากพ่วงอุปกรณ์ตรวจจับสมัยใหม่อย่างถุงมือ ถุงแข้ง หรือเครื่องตรวจจับรังสีที่เปล่งออกจากกายอีกนะครับ ที่จะทำให้ข้อมูลของเราถึงแพทย์ได้เต็มที่กว่ามาก

นี่ว่ากันแค่ขั้นวินิจฉัยโรคนะครับ หากเลยไปเรื่องการรักษา เมตาเวิร์สที่ทำให้เสมือนผ่าตัดกันบนเตียงจริง ๆ เมื่อบวกกับไฮสปีดอินเตอร์เน็ต จอภาพแบบคมชัดสูง และแขนกลคุณหมอที่มีมานานแล้ว เราสามารถผ่าตัดกันได้แบบแทบไม่ต่างจากผ่าด้วยมือเอง หรืออาจจะแม่นยำกว่าด้วยซ้ำเพราะมีส่วนประมวลผลช่วยเสริมมากกว่าสายตา

ผมแน่ใจว่าต่อไปทุกอาคารสูง ทุกชุมชนจะต้องมีข้อบังคับให้มีห้องรักษากลางของอาคาร คนป่วยจะได้ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเดินทางไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลสามารถรับการวินิจฉัยในคลีนิกเวิร์ส และรับการรักษาที่ห้องผ่าตัดชุมชนได้เลย

นี่ล่ะครับเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโลกการแพทย์ในอนาคตนี้ เตรียมรับมือ และรับบริการกันไว้นะครับ

ดร. วีรณัฐ โรจนประภา

*ถอดความจาก FB Live เพจ https://www.facebook.com/dr.veeranut ติดตามได้ทุกวันเสาร์ 10.30 – 11.30

หนึ่งความเห็นตอบกลับที่ “คลีนิกนฤมิต”

  1. ชัยสิทธิ์ รัตนเกียรติชัย Avatar

    จักรวาลใจ ไม่ไดลที่จะเนรมิต คิดเป็น ตรัสรู้เอง ปัจจัตตังเวทิตับโพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *