เดือนก่อนมีข่าวเกี่ยวกับการประกันสุขภาพของผู้สูงอายุออกมาให้ได้เป็นที่วิพากษ์กันว่าอาจมีการให้ข้อมูลไม่ชัดจนทำให้เกิดการเข้าใจผิดและนำมาซึ่งความเสียหายของผู้ทำประกันได้ ก็น่าเห็นใจครับ เพราะผู้สูงอายุทุกท่านก็อยากมีหลักประกันให้กับตนเองว่าหากตนเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย หรือโชคร้ายถึงขั้นสูญเสียชีวิตไปแล้ว จะมีทางดูแลกันได้โดยไม่ให้เดือดร้อนไปถึงลูกหลานต้องนำเงินที่เก็บออมมาหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลที่แสนแพงให้ท่านรู้สึกไม่ดีกับตนเองได้ ก็อะไรจะสร้างความลำบากใจให้พวกท่านได้มากเท่ากับความรู้สึกว่าตนเป็นภาระแก่ลูกหลานล่ะครับ ความกังวลเช่นนี้ทำให้ในอดีตเรามักได้ยินข่าวสะเทือนใจอยู่ทุกบ่อยว่าคุณตา คุณยายบางท่านไม่ยอมให้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล ขอยอมตายในบ้านก็ด้วยเพราะต้องการเก็บเงินไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ในอนาคต บางกรณีน่าสลดใจยิ่งกว่านั้นคือท่านยอมที่จะสละชีวิตเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้คนที่ท่านรักและห่วงใยกันเลย ก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีกรณีที่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ที่มาลงเอยเป็นความเศร้าเช่นนั้นในสังคมของเราอีกตลอดไปนะครับ และนั่นเองทำให้มีการพัฒนาสินค้าออกมาเพื่อแก้ปัญหานี้ นั่นคือมีการคิดค้นรูปแบบการประกันภัยในลักษณะต่าง ๆ ที่สนองตอบต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุ จนได้ออกมาเป็นการประกันสุขภาพที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ หรือกระทั่งการประกันที่ไม่ตอบปัญหาสุขภาพ ซึ่งเรื่องก็น่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีบริษัทประกันก็ได้ขยายฐานลูกค้า ลูกค้าสูงวัยเองก็ได้หลักประกันที่ต้องการ แต่ปัญหามาเกิดเมื่อถึงเวลาที่พวกท่านต้องการหลักประกันนั้นจริงแล้วมาเจอปัญหาคือการเคลมไม่ได้เกิดขึ้นที่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามเมื่อนำมาคำนึงถึงการที่สังคมไทยอยู่ในยุคของการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีผู้สูงอายุจำนวนมาก และจะยิ่งมากขึ้นเมื่อเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในอีกไม่ถึงสิบปีข้างหน้านี้จนเชื่อได้ว่าคงจะมีรูปแบบการประกันใหม่ ๆ สำหรับผู้สูงอายุออกมาอีกเรื่อย ๆ เรื่องของกรมธรรม์สำหรับผู้สูงอายุนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องสนใจมากกว่าเรื่องของการเรียกร้องสิทธิ์ของผู้บริโภคเหมือนสินค้าอื่น ๆ สังคมต้องช่วยกันหาทางแก้ไข หรือมิเช่นนั้นก็ต้องหาทางเลือกที่ดีกว่านี้ มั่นใจได้มากกว่านี้ให้พวกท่านได้ใช้คลายความกังวลใจไม่เช่นนั้นเราอาจต้องกลับไปเผชิญกับเรื่องเศร้าที่เกิดจากความรักอันบริสุทธิ์เช่นที่ยกมาอีก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็ต้องออกมาตรการควบคุม กำกับ ดูแลกันไป แต่ยังมีคำถามสำคัญที่ชวนหาคำตอบอีกก็คือ “แล้วสารพัดกรมธรรม์เหล่านั้นสามารถวางใจได้จริงหรือ ?” คำตอบแบบคนมองโลกด้วยความระแวงก็ต้องตอบว่าสารพัดกรมธรรม์ไม่ว่าจะมาจากบริษัทไหนก็ไม่อาจสร้างความมั่นใจให้ผู้สูงอายุได้เต็มร้อยจนสามารถเรียกได้ว่านอนตายตาหลับหรอกครับ เพราะนอกจากจะต้องเสี่ยงกับการตีความกรมธรรม์ที่อาจมีข้อมูลที่ไม่ชัดเจนแล้ว ยังต้องเสี่ยงกับความมั่นคงของตัวบริษัทประกันเองที่ก็มีสิทธิ์ที่จะล้มไปก่อนคนทำประกันตายก็ได้ แต่ที่สำคัญคือต่อให้ลูกหลานได้เงินชดเชยในจำนวนที่คิดว่ามากเพียงพอแล้ว แน่ใจได้อย่างไรว่าพวกเขาจะดูแลเงินเหล่านั้นได้ หรือเงินเหล่านั้นจะดูแลเขาได้ ดี ไม่ดีเงินนั้นอาจนำพิษภัยมาให้เขาแทนก็เป็นได้ ตอบเช่นนี้แล้วก็อาจมีผู้สูงอายุหลายท่านถามว่า “แล้วจะมีกรมธรรม์อะไรไหมที่สามารถประกันได้ดีจริงจนตา(ยาย)นอนตายตาหลับได้ ?” คำตอบคือมีครับ แถมยังเป็นกรมธรรม์ที่ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าเบี้ยเสียด้วย เพราะกรมธรรม์ที่คุ้มครองสูงสุด มั่นคงที่สุดฉบับนี้ไม่ได้เก็บเบี้ยเป็นเงิน แต่เก็บเบี้ยเป็นการกระทำที่เรียกว่า “พละ 4” ครับ พละ 4 หมายถึง “ธรรมอันเป็นพลังในการดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจ และความปลอดภัย” ผู้ประพฤติ ปฏิบัติตามธรรมตามหมวดนี้มีความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตของตนจะ “หมดห่วง” กับอนาคตของตนและครอบครัว เบี้ยพละ 4 นี้ต้องจ่าย 4 แบบคือ 1. ปัญญาพละ หมายถึง ทั้งปัญญาทางธรรมที่เข้าใจความเป็นจริงของสรรพสิ่ง และปัญญาทางโลกที่ใช้ในการประกอบวิชาชีพที่ต้องมีความรู้ในเรื่อง หรือการงานที่กระทำนั้นเป็นอย่างดี มิใช่ฉาบฉวยถึงจะเป็นปัญญาในหมวดปัญญาพละนี้ ใครมีปัญญาพละก็จะมีความมั่นคงในชีวิตจากการประกอบอาชีพของตนสามารถหาเลี้ยงชีพได้อย่างเพียงพอ จนไม่ต้องหันมาพึ่งทางลัด ทางรวยเร็วที่คิดเอาเองว่าจะทำให้ชีวิตมั่นคงได้อย่างการเล่นหุ้นที่นิยมกันมากในปัจจุบันที่ก็ยังต้องอาศัยปัญญาพละนี้ในการลงทุนเช่นกัน หากละเลยที่จะศึกษาหาความรู้เรื่องหุ้นให้ลึกซึ้งเพียงพอก็จะกลายเป็นเหยื่อที่เรียกว่า “แมงเม่า” นั่นเอง สรุปคือปัญญาพละนี้ก็จะสอดคล้องกับความรู้ที่เป็นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงพระราชทานไว้ให้ คือความรู้รอบ รู้ลึก และรู้ชัดในอาชีพของตนนั่นเอง 2. วิริยะพละ หมายถึง ความขยันขันแข็ง ความไม่ย่อท้อในหน้าที่การงานของตนไม่เกียจคร้าน น่าสังเกตว่าข้อนี้ก็ตรงกับคุณธรรมที่เป็นฐานคู่กับความรู้ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่นอกจากจะหมายถึงความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกงแล้วยังมุ่งไปในเรื่องของความอดทน อดกลั้น คืออดทนที่จะรอคอยความสำเร็จ มุ่งสร้างเหตุและรอที่จะให้ผลเกิดขึ้นตามปัจจัยนั้นได้ ไม่ด่วนได้อยากได้แต่ผลโดยไม่ประกอบเหตุให้สุกงอมดั่งที่ปรากฏเป็นปัญหาในปัจจุบันนี้ เช่นเดียวกับอดกลั้นต่อความเย้ายวน ยั่วยวนของผลประโยชน์ในทางมิชอบที่เสนอเข้ามาสู่ผู้ปฏิบัติคือเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชั่นอันเป็นปัญหาใหญ่ที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ดังนั้นความขยัน พากเพียรนี้จึงสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่สังคมถูกครอบงำโดยลัทธิวัตถุนิยม สะท้อนความสำเร็จของบุคคลด้วยวัตถุมากกว่าการกระทำ คนตัดสินคนกันที่ข้าวของเครื่องใช้มิใช่ความสามารถ คนก็เลยมุ่งที่จะครอบครองวัตถุให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เป็นการมุ่งเอาแต่ผลโดยไม่สนใจในการสร้างเหตุ ทั้งยังเร่งรัดผลให้ได้โดยเร็วเพื่อจะยกสถานภาพทางสังคมของตนได้ภายในชั่วพริบตาให้ทันใจกับยุคไฮสปีดที่ทำให้คนรอไม่เป็น วิริยะพละนี้จึงเป็นพละ เป็นพลังสำคัญที่จะดึงสังคมกลับมาให้ตั้งอย่างแข็งแกร่งอยู่บนฐานแห่งความเป็นจริง ไม่ล้ม คลอนโดยง่ายจากความฉาบฉวยของภาพวัตถุจอมปลอมนั้น 3. อนวัชชพละ หมายถึง การรู้ถูกผิด ดีชอบ ชั่วดี การรู้นี้มิใช่การรู้สิ่งดีถูกผิดตามกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นความรู้ที่สามารถชั่งน้ำหนักของทางเลือกที่ขัดแย้งกันได้อย่างเหมาะสม เช่นบางเรื่องเป็นเรื่องผิดศีลธรรมแต่ถูกกฎหมาย บางเรื่องผิดกฎหมายแต่ถูกค่านิยมของสังคม ฯลฯ อนวัชชพละคือปัญญาที่สามารถแยกแยะ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง มีความกล้าที่จะกระทำในสิ่งที่ถูกแม้รอบตัวจะไม่เห็นด้วย วลีที่ใกล้เคียงกับปัญญาตัวนี้ก็คือ ยอมเสียชีวิตเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสัตย์ หรือยอมสละแม้กระทั่งชีวิตในการดำรงไว้ซึ่งความจริง พละในหมวดนี้จะยากในขั้นเริ่มต้นเพราะต้องฝืนกับความเชื่อ หรือค่านิยมในสังคมที่ไม่เหมาะสมบางประการ แต่เมื่อผู้ปฏิบัติกล้าที่จะทำเพื่อความดีแล้วกำลัง หรือพละนี้จะเพิ่มขึ้นจนสุดท้ายเมื่อพละเต็มรอบจะไม่มีความรู้สึกฝืนอีก จะเป็นการทำได้อย่างอัตโนมัติแม้คนรอบตัวทั้งหมดจะคัดค้าน ด้วยเห็นชัดแล้วว่าสิ่งใดควรกระทำสิ่งใดควรละเว้นไม่กระทำ 4. สังคหพละ หมายถึง กำลังในการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง สามัคคี ข้อนี้ก็คือสังคหวัตถุ 4 อันประกอบด้วย ทาน คือ การแบ่งปัน การบริจาคจะเป็นเงินทอง วัตถุสิ่งของ หรือแรงงาน ความรู้ ความสามารถที่เราสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นก็เรียกว่าเป็นทานทั้งนั้น ปิยวาจา การพูดอันเป็นที่รัก คือ ไม่พูดเบียดเบียน พูดให้งดงาม พูดให้เขารักกัน พูดให้เขาคืนดีกัน พูดให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี พูดให้ได้ประโยชน์เพิ่มพูนความรู้ให้คนฟัง อัตถจริยา คือ การบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมในเรื่องต่าง ๆ ไม่ดูดาย ทำประโยชน์อะไรเพื่อคนอื่นได้ก็ต้องทำไปตามกำลัง และสมานัตตตา การวางตนเสมอต้นเสมอปลาย หรือการประพฤติตนให้สมกับฐานะ เราอยู่ในหัวโขนใด มีบทบาทใด เราก็ต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับหน้าที่การงานนั้น เพื่อให้ระบบของสังคมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น สังคหวัตถุ 4 ที่ขยายกว่านี้ได้เขียนถึงไปแล้วในฉบับก่อนในฉบับนี้ก็ขอเพียงย่นย่อมาทวนกันก็พอนะครับ ลองจินตนาการดูซิครับ หากทำได้ตามหลัก พละ 4 นี้ทั้งหมดความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในชีวิตตนและครอบครัวทั้งในปัจจุบันและในอนาคตภายภาคหน้าจะมีมากแค่ไหน ก็การงานที่ทำเราก็มีความรู้ ความชำนาญอันหมายถึงโอกาสพลาดพลั้งย่อมน้อยยิ่งถ้าขยันขันแข็งไม่ใช้จ่ายเกินตัว ความห่วงเรื่องการเลี้ยงชีพแทบจะไม่มีเลย ขณะที่เราก็กระทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง อย่างที่ควรกระทำ ทำให้ไม่ต้องมาคอยระวังหลังว่าจะโดนใครแทง จะโดนทางการบ้านเมืองเอาผิด หรือแม้กระทั่งหากโดนจริง ๆ เราก็ยังสบายใจว่าเป็นวิบากเก่าที่ต้องรับแต่เราไม่ได้สร้างบาปชั่วร้ายให้ต้องตามไปชดใช้อีกในเบื้องหน้า และสุดท้ายด้วยพลังแห่งสังคหนั้นจะทำให้เรามั่นคงจากความสมัครสมานสามัคคีกันของคนในชุมชน มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คอยดูแลกันดั่งญาติ ซื้อกรมธรรม์วงเงินมหาศาลแค่ไหน แต่หากลูกหลานผู้รับประโยชน์ของเราขาดคนดูแล เงินมหาศาลนั้นก็อาจสูญสลายได้ในพริบตาไร้ซึ่งหลักประกันอีกต่อไป ต่างจากความอุ่นใจที่ลูกหลานเรามีเพื่อนบ้านคอยดูแลดั่งญาติ คอยประคับประครอง อบรมสั่งสอนและช่วยเหลือเหมือนลูกหลานตนเอง จะหากรมธรรม์ฉบับไหนที่ดี มั่นคงและสมบูรณ์กว่านี้ได้อีกล่ะครับ !
- YouTube
- คิดใหม่คุยกับสื่อ
- Kid-Mai Classes
- Human Development & Team Building
- ที่ปรึกษาธุรกิจด้านความยั่งยืน ESG SDGs BCG
- 💎 SustaInnovation Leadership Program
- ข่าวประชาสัมพันธ์ รับสมัครหลักสูตร SustaInnovation in Action
- 1 st day SustaInnovation Leadership Program
- 2nd day SustaInnovation Leadership Program
- 3rd day SustaInnovation Leadership Program
- 4th day SustaInnovation Leadership Program
- 5th day SustaInnovation Leadership Program
- 6th day SustaInnovation Leadership Program
- 7th day SustaInnovation Leadership Program
- 8th day SustaInnovation Leadership Program
- บรรยากาศกิจกรรมทัศนศึกษาดูงาน
- การนำเสนอ Project หลักสูตร SustaInnovation Leadership
- การแสดงจากผู้เข้าร่วมหลักสูตรทั้ง 5 กลุ่ม
- ลิงก์ข่าว ‘คลอด 5 Projects จากหลักสูตร SustaInnovation Leadership Program โดยสถาบันคิดใหม่ เพื่อการทำธุรกิจที่สุข สำเร็จ มั่งคั่ง ย่างยั่งยืน’
- 🌱🌏 SustaInnovation in Action Class
- Metaverse Class: จักรวาลนฤมิต เพื่อสังคม
- Goal Setting & Achievement
- Creative Sustainable Career
- Reset Your LIFE
- Anger Management
- STRENGTH IN ACTION
- ชีวิตสุข 6 มิติ
- Power of Organization
- กิจกรรมคิดใหม่
- หนังสือ Kid Mai
- บทความคิดใหม่
- Escape Room for HR
- Death Awareness Cafe
- ผลงานวิจัย
- คำประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เดอะ ลาสต์ แมน สแตนดิง จำกัด และ บริษัท คิดใหม่ จำกัด