ที่เดียวในโลก! นวัตกรรมการศึกษาที่เน้นพุทธปรัชญา The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game

Death Awareness Cafe

เมื่อเร็วๆนี้ ผมมีโอกาสพาครอบครัว (ลูกหลานวัย 9 ขวบ และ 18 ปี รวม 5 คน) ไปลองเล่น The Last Prison Escape Room ที่ Kidmai Death Awareness Cafe’ มูลนิธิบ้านอารีย์ ซอยอารีย์ พหลโยธิน ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาและพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านจิตวิทยาที่ทรงพลัง
ปรากฏว่าเด็กๆ ทุกคนสนุกสนานเพลิดเพลินและตื่นเต้นกันมาก เพราะต้องใช้ทักษะต่างๆ รอบตัวในการการสืบค้น ทั้งการหาทางเข้าห้องและจะต้องหาทางออกจากห้องให้ได้ โดยเลือกห้องแรก คือ สุสานต้องคำสาป ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Cursed Diamond กว่าจะออกจากตรงนี้ได้ด้วยความตื่นเต้นระทึกขวัญ จากที่ได้เจอมัมมี่ในสุสาน เด็กๆออกมาพักสักครู่  และเลือกเข้าอีกห้องหนึ่ง คือ โรงเตี๊ยมสนธยา ในชื่อภาษาอังกฤษ The Horror Hotel

ส่วนห้องที่เหลือนั้น ก็อาจจะยังสยองขวัญเกินไปและเวลาไม่พอ จึงยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นในวันแรกที่ไป นั่นคือ กระท่อมสยองกลางพงไพร Kra Sue (กระสือ) และการร่วมสืบคดีฆาตกรรมในคืนวันเพ็ญ
  ผมขอชื่นชม ผศ. ดร. วีรณัฐ โรจนประภา (ดร.ใหม่) ผู้ออกแบบและก่อตั้ง The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game โดยให้ผู้เล่นเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ระทึกขวัญเพื่อแก้ไขปัญหา เวอร์ชั่นคนไทยที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก ที่แรกที่เดียวที่ให้ข้อคิดผสานกับแนวปรัชญาของศาสนาพุทธ แตกต่างจากเครื่องมือ Escape Room อื่นๆ ที่มีอยู่ในโลก
 ดร. ใหม่เล่าให้ฟังว่า “ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จทั้งในมิติของการใช้ชีวิต การทำงาน การเงิน ความสัมพันธ์ ในยุคนี้ความรู้จากตำราสิ่งที่เรียนจากห้องเรียนไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การประสบความสำเร็จจึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมถึงการเชื่อมโยงองค์ความรู้จนเกิดเป็นสิ่งใหม่เพื่อก้าวเป็นผู้นำในแวดวงธุรกิจต่าง ๆ  นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาทักษะสำคัญสำหรับโลกสมัยใหม่อย่าง 7Q ควบคู่ไปด้วย ได้แก่ IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา, EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์, CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์, MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม, PQ (Play Quotient) ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น, AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา และ SQ (Social Quotient) ความฉลาดทางสังคม สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนนอกห้อง ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และสนามจริงให้ลงมือเรียนรู้และฝึกฝน การสอนในยุคสมัยใหม่จึงต้องประยุกต์และออกแบบมาเพื่อสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการใช้ผู้เรียนได้รับ  The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game ออกแบบการเรียนรู้ผ่านเกมด้วยกระบวนการ gamification เพื่อให้ผู้เรียนรู้ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกสอน ผสมผสานความหลากหลายของปริศนาให้เกิด team building สำหรับกลุ่มคนทำงาน และสานสัมพันธ์ครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูก ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติระหว่างการเล่มเกมที่ออกแบบและใส่กลไกเอฟเฟกต์กระตุ้นความเร้าใจตื่นตัว และสิ่งสำคัญที่ทำให้ The Last Prison Escape Room แตกต่างจากที่อื่น ๆ คือ แต่ละห้องคดีถูกออกแบบมาบนฐานของการสอดแทรกความรู้เชิงคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นการละความโลภ การมีสติ ความไม่ประมาท ไปจนถึงระดับการพ้นทุกข์”
 ผมขอเชิญชวนผู้บริหารองค์กร คนทำงาน คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองสามารถพาเด็ก ๆ ลูกหลาน มาเรียนรู้แบบจำลองการแก้ปัญหาและการเผชิญกับสถานการณ์ได้ เพื่อฝึกน้องๆ และทีมงานในองค์กรของเราได้แก้ไขปัญหาในชีวิตจริง ฝึกฝนความช่างสังเกต เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว สำหรับวัยรุ่นได้ฝึกการทำงานเป็นทีม ทำให้เกิดความสนิทสนมแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น คู่รักได้เห็นวิธีคิด ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา ทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจ สร้างความผูกพันธ์
 ส่วนบริษัท องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ escape room ในการสร้าง team building หรือแม้กระทั่งใช้พิจารณาในการรับคนเข้าทำงานโดยประเมินจากกระบวนการเล่น escape room โดยให้ผู้เล่นเข้าไปอยู่ในห้องปิดตาย ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันไขปริศนาจริงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปริศนาคำถาม ปริศนารูปภาพ ปริศนาเสียง และกลไกจริงอื่น ๆ ภายในห้อง ประมาณ 8 – 12 ปริศนา เพื่อหาทางออกจากห้องภายในระยะเวลาที่กำหนด
 อีกหนึ่งความแตกต่างของ The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game คือการใช้ Game Master ที่เป็นผู้สูงวัยมาอำนวยความสนุก และดำเนินกิจกรรม เนื่องจากการส่งเสริมความสัมพันธ์คน 3 วัย เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ที่ปัจจุบันเป็นสังคมผู้สูงอายุ การใช้เครื่องมือ Escape room มาเป็นสื่อกลางให้คนแต่ละวัยได้ร่วมพูดคุยกันผ่านเกม จึงช่วยสร้างความสนิทสนม และเปิดใจระหว่างคนต่างวัยได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้คนสูงวัยได้มีงานที่เป็นประโยชน์ทำ ได้ออกมาเจอลูกหลาน เป็นการคืนความสดใส กระชุ่มกระชวย และเพิ่มพลังชีวิตได้อีกทาง
 นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างงานให้กับผู้สนใจวัยเกษียณที่ต้องการเป็นแฟรนไชส์ สร้างห้อง Escape Room โดยใช้พื้นที่ว่างในบ้านให้เกิดประโยชน์และใช้แนวคิดและระบบการจัดการของ KID MAI ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ ให้กับเจ้าของสถานที่ได้อีกทางหนึ่ง
 The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ธีมห้อง escape และ 2 เกมสืบไขคดี โดยจะมีการเพิ่มจำนวนเกมขึ้นอีกในอนาคต

  ส่วนท่านที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคม และสร้างรายได้ให้กับตัวเองผ่านเครื่องมือ Escape room สามารถติดต่อได้ที่ 099-2893645, 063-3244519 หรือไลน์แอด @dr.veeranut ทีมงานพร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยดูทำเล บริการออกแบบเกมที่เหมาะสม พร้อมเทรนทักษะการเป็น Game Master

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *