หมอความ

ยุคนี้มีคนหันกลับไปทำการเกษตรกันมาก บางคนมีพื้นเพเป็นชาวไร่ ชาวนาอยู่แล้วแต่ด้วยค่านิยมเลยมุ่งเข้ามาหางานทำในเมืองหลวง พอเศรษฐกิจย่ำแย่ก็กลับไปหากลิ่นดิน ไออุ่นจากบ้านเกิด ขณะที่บางคนเป็นคนเมืองมาแต่เกิด ใช้ชีวิตตามวิถีทุนนิยมเต็มรูปแบบแข่งกันเรียน แข่งกันแย่งตำแหน่ง แข่งกันแสวงหาเงินทองอย่างมุ่งมั่นด้วยความเชื่อว่านั่นคือทางแห่งความสุข สุดท้ายเมื่อได้เรียนรู้ว่านั่นคือวิถีแห่งทุกข์ก็ขอโบกมือลา ที่น่าสนใจคือหลายคนในบางคนนั้นดำเนินวิถีแห่งทุกข์มาจนร่ำรวยเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศแต่ด้วยปัญญาอันยิ่งจึงเห็นว่าวิถีนั้นไม่ใช่ทาง ยอมสละความสบายไฮเทคออกไปลำบากกาย หน้าสู้ดินหลังสู้ฟ้าแต่แสนสุขใจกับธรรมชาติ แต่มิใช่ว่าทุกคนจะต้องไปทำไร่ไถนากันถึงจะสุขนะครับ ใครทำอาชีพใดก็ได้ ขอให้เป็นอาชีพสุจริตที่ไม่ไปเบียดเบียนใคร และทำบนพื้นฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำการทำงานตนด้วยความมีเหตุมีผล ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ทำด้วยความพอประมาณไม่โลภจนหน้ามืดตามัวและไม่ตระหนี่จนกลายเป็นอุปสรรค ทำด้วยความมีภูมิคุ้มกัน มองอนาคตข้างหน้าและหาทางป้องกันในกรณีมีอะไรผิดพลาด ที่สำคัญต้องทำบนพื้นฐานของการมีความรู้ในการงานอาชีพของตนอย่างถ่องแท้รอบด้าน และทำทุกสิ่งอยู่บนพื้นฐานของความมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต มีความอดทน รอผลจากเหตุได้ ทำได้เช่นนี้จะอยู่ในแวดวงใดชีวิตก็จะมีความสุขอย่างยั่งยืน ไม่เว้นแม้แต่อาชีพที่น่าจะเป็นหนึ่งในอาชีพที่ร้อนที่สุดอย่าง “หมอความ” หรือทนายความด้วย ที่หยิบยกอาชีพนี้มากล่าวถึงก็เพราะสังเกตุว่าในระยะหลังสังคมเรานิยมการฟ้องร้องมากขึ้นกว่าเดิมมาก ก็อยากที่จะเสนอข้อคิดไว้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกับผู้ที่มีอาชีพโดยตรงคือทนาย ฝ่ายผู้ถูกฟ้องและฝ่ายผู้ฟ้อง ด้านทนายนั้นแม้จะเป็นอาชีพที่ทำเงินมหาศาลโดยเฉพาะในประเทศเจริญแล้วที่เขานิยมฟ้องกัน แต่ก็ต้องแลกกับการต้องคลุกคลีอยู่กับความขัดแย้ง เวลาเกือบทั้งหมดถูกใช้ไปกับการเผชิญหน้าห้ำหั่นกันจนอาจสะสมบ่มเพาะจนชีวิตเร่าร้อนแห้งแล้งไปด้วย การทำงานจึงต้องระลึกไว้เสมอที่จะน้อมนำทำตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยเฉพาะพื้นฐานแห่งคุณธรรม ไม่ใช้วิชาชีพเพื่อประโยชน์ตน คอยแต่มุ่งหาช่องโหว่มาหลอกล่อเอาเปรียบกัน แต่ใช้อาชีพตนเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งความยุติธรรมให้เกิดขึ้นแก่คู่กรณี ไม่มองอีกฝ่ายเป็นศัตรู มองทุกคนเป็นเพื่อนร่วมโลก เพื่อนร่วมทุกข์แต่ที่ต้องมาต่อสู้กันในวิถีนี้ก็เพื่อให้ได้ข้อสรุปออกมาให้แต่ละฝ่ายได้เดินต่อกันได้ เช่นนี้จากร้อนก็จะกลายเป็นเย็นไปในทันที ส่วนฝ่ายของผู้ถูกฟ้องก็ต้องทำใจครับ ถ้าเป็นความจริงก็ยอมรับความจริงเพื่อรับผลที่ตนก่อแม้จะต้องทุกข์กายจากบทลงโทษแต่จะสุขใจจากความอิสระที่ไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ส่วนถ้าไม่จริงหรือเราเชื่อว่าไม่จริงก็ปล่อยให้กลไกดำเนินไปตามครรลอง ผลเป็นอย่างไรย่อมเหมาะแก่การกระทำของเราที่อาจทำมานานมาก ๆ จนสมองนี้จำไม่ได้แล้ว ขณะในส่วนของผู้ฟ้องนั้นเป็นเรื่องที่น่านำมาถกตั้งแต่การตัดสินใจว่าจะฟ้องหรือไม่กันเลย โดยเฉพาะในระยะหลังสังเกตุได้ถึงกระแสการฟ้องกันในบ้านเราที่ทวีขึ้นมาก บางกรณีรู้สึกว่าเกินความพอดีไปจนเกรงว่าสังคมแห่งความเห็นอก เห็นใจ ให้อภัย ให้โอกาสของเราจะจางหายไปด้วย อดีตเคยได้ยินผู้เฒ่า ผู้แก่สอนลูกหลานว่า ที่เราปลูกผัก ปลูกถั่วไว้หากมีใครมาขโมยไปกินก็ไม่ต้องไปฟ้องความเขานะ ถ้าเป็นสัตว์มาเอาก็ถือว่าทำบุญไป หากเป็นคนมาขโมยก็ถือว่าทำทานไป เพราะถ้าเขามีเขาคงไม่มาขโมยเราหรอก นี่แหละครับ คนรุ่นก่อนมักสอนกันเช่นนี้ เราเลยไม่มีค่านิยมการฟ้องติดตัวมา เราถือโอกาสที่คนมาเอาเปรียบเรานี้ให้เป็นความได้เปรียบของเราเอง คือได้เปรียบในระดับของจิตใจที่ยกสูงขึ้น ไม่หวง ห่วง แทนที่จะมุ่งคิดถึงแต่ทรัพย์สินของตัว ใครจะมาละเมิดของเราไม่ได้ต้องใช้กฏหมายมาจัดการจนใจตนร้อนรนกระวนกระวาย ก็หันมามุ่งคิดถึงคุณธรรมภายในของตัวแทน ใช้โอกาสนี้ฝึกฝนจิตใจตน บ่มเพาะความเมตตา กรุณาแก่คู่กรณี ถือว่าทำบุญ ทำทานกันไป หรือคิดว่าเป็นเวรกรรมที่ต้องชดใช้กันไปให้หมดจะได้ไม่ต้องผูกเวรตามไปใช้กันชาติหน้าอีก คิดได้เช่นนี้ก็จะทำให้ใจเราสงบ เปิดกว้าง มีความสุขในทันทีโดยไม่ต้องรอตำรวจไปจับขโมยได้ แต่ไม่ได้ว่าไม่ให้ฟ้องแล้วยกเป็นหน้าที่ของกรรมไปเสียทั้งหมด หรือไม่ใช่ให้ดูดายนะครับ ทรัพย์เราเหนื่อยยากทำมาต้องรักษาให้ดีที่สุด หากพิจารณาด้วยเหตุและผลแล้วจะเป็นต้องฟ้องกันจริง ๆ ก็ต้องฟ้องเพียงแต่ต้องวางใจให้ดี ว่าฟ้องไปเพื่อประโยชน์ของคนอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อประโยชน์แก่ตัวเขาเองในภายภาคหน้า ให้เขาได้เข็ดหลาบไม่กล้าที่จะกระทำผิด ก่อบาปกรรมให้กับตัวเองอีก ไม่ใช่ฟ้องด้วยความแค้น หากเปรียบก็เหมือนคำเปรยโบราณว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ทำได้เช่นนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะอยู่กับธรรมชาติการเกษตร หรือจะอยู่กับสิ่งปลูกสร้างไฮเทค ชีวิตเราก็จะสุขจากความพอเพียงอย่างเพียงพอครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *