มีปราชญ์กล่าวไว้ว่า
จงระวังความคิด เพราะความคิดจะกลายเป็นคำพูด
จงระวังคำพูด เพราะคำพูดจะกลายเป็นการกระทำ
จงระวังการกระทำ เพราะการกระทำจะกลายเป็นความเคยชิน
จงระวังความเคยชิน เพราะความเคยชินจะกลายเป็นนิสัย
จงระวังนิสัย เพราะนิสัยจะกลายเป็นโชคชะตา
และโชคชะตานั่นเองที่จะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเราให้ดี ให้เลวตามนั้น
สรุปคืออนาคตของเราจะเป็นเช่นไร ก็เริ่มมาจากความคิดของเรา หากหมั่นคิดดีก็จะมีอนาคตที่ดี หากเอาแต่คิดร้ายอนาคตก็แย่ แต่รู้ทั้งรู้คนจำนวนมากก็ยังฝืนใจตนเองให้คิดในด้านดี หรือมองโลกในแง่ดีไม่ได้
ทางแก้ก็คือต้องระวังความคิด คอยสังเกตุมันให้ดี คิดไม่ดีเมื่อไหร่ให้รีบหาทางกำจัด จัดการออกไปเสียอย่าได้ปล่อยให้มันลุกลาม ใหญ่โตขึ้นมา เพราะเมื่อความคิดมีกำลังเราจะไม่มีแรงพอจะจัดการมันได้แล้ว ต้องยอมให้มันบงการชีวิตเราให้ตกต่ำลงไป หรือแม้ในยามที่เคราะห์ร้ายประสบกับสิ่งเลวร้ายจริง ๆ ปัดความคิดนั้นเท่าไหร่ก็ไม่พ้น ก็ใช่ว่าเราต้องยอมเป็นทาสให้มันมากำหนดชะตากรรมในอนาคตของเรา เรายังสามารถมองเคราะห์ร้ายนั้นให้กลายเป็นเรื่องดีได้ มองอย่างไร ?
เริ่มจากต้องยอมรับความจริงว่าไม่มีใครที่ชีวิตราบเรียบไม่มีอุปสรรค หรือหากมีจริงชีวิตที่ราบเรียบไร้บททดสอบนั้นแหละที่จะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการพัฒนาตนของตนเองไปเสีย เรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรานั้นก็เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ให้เราได้ก้าวไปสู่ชีวิตใหม่ที่พัฒนาขึ้น ดีขึ้น นี่เป็นความจริงมิใช่การคิดเพื่อปลอบประโลม ลองมองย้อนดูในทุกประเทศชั้นนำบนโลกใบนี้หลาย ๆ ประเทศก็ล้วนมีจุดก้าวกระโดดมาจากช่วงวิกฤติของประเทศทั้งนั้น
ชีวิตคนก็เช่นกันจะมีจุดพลิกผันให้ชีวิตเจริญขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็ต่อเมื่อมีวิกฤติเข้ามาให้ได้เผชิญ ดั่งคำเปรียบเปรยที่อิงความจริงของวัสดุศาสตร์ที่ว่า
“แพ้ก็เป็นถ่าน ผ่านก็เป็นเพชร”
ทั้งเพชรและถ่านล้วนมาจากธาตุคาร์บอนเหมือนกัน ที่ต่างคือเมื่อธาตุผ่านการโดนความร้อนบีบอัดอย่างสูงผลที่ได้มาเราเรียกว่าเพชร คนเราก็เช่นกันเมื่อโดนบททดสอบแผดเผาหากยอมแพ้ ล้มแล้วไม่ยอมลุกก็จะกลายเป็นคนไร้ค่า เป็นผู้แพ้ ส่วนผู้ชนะคือผู้ที่เมื่อบททดสอบนั้นมาก็ใช้ความอดทนจนเมื่อผ่านมาได้ก็เหมือนชีวิตได้ถูกเคราะห์นั้นหล่อหลอมกลายเป็นชีวิตใหม่ที่มีค่าดั่งเพชร
ฉะนั้นเราควรขอบคุณชีวิตที่ส่งบททดสอบมาให้ มากกว่าที่จะหลีกหนีบททดสอบนั้น เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเข้าใกล้เส้นชัยไปอีกขั้นของเราแล้ว คิดต่ออุปสรรคใหญ่หลวงที่ถาโถมเข้ามาสู่ชีวิตเราได้เช่นนี้จะทำให้เราประพฤติและกระทำต่ออุปสรรคนั้นอย่างอาจหาญจนเกิดเป็นความเคยชินที่จะบ่มเพาะกลายเป็นนิสัยและหล่อหลอมจนเป็นสันดานอันจะส่งผลออกมาเป็นโชคชะตาในอนาคตข้างหน้าของเรา
ชะตานี้อยู่ในมือ (หัว) เราครับ เราเลือกได้ที่จะให้มันเป็นโชคร้ายตามความคุ้นเคยหรือจะให้มันเป็นโชคดีด้วยการบงการของเราเอง
ชีวิตคุณ คุณเลือก (คิด) เองครับ