Category : Happy+

D.I.Y.

by : Admin      2017-07-13      Happy+      0 comments

Happy+ ก.ค. 60

“อัตตาหิ อัตโนนาโถ” “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” พุทธภาษิตนี้เป็นที่คุ้นหูของชาวไทยทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรต้องเคยที่จะใช้ภาษิตนี้ในการเตือนใจตนเองเสมอ แม้กระทั่งคนที่มีฐานะร่ำรวย มีเงิน มีทองมากมาย แต่เอาเข้าจริงจะมีปัญหาอยู่ประเภทที่เงินไม่อาจจัดการให้ได้ นั่นก็คือปัญหา “ความทุกข์ (ใจ)” เงินสามารถซื้อแอร์มาเปิดให้ทุกข์กายจากอากาศร้อนหายได้ เงินสามารถจ่ายให้หมอมานวดให้คลายทุกข์กายจากความปวดเมื่อยตัวได้ เงินสามารถสร้างบ้านให้เป็นไม่ต้องทุกข์กายกับแดดฝนได้ แต่เงินมากแค่ไหนก็ทำได้เพียงหาความเพลิดเพลินให้ใจชั่วครู่ ไม่อาจแก้ไขทุกข์ทางใจได้อย่างเบ็ดเสร็จจริง ที่น่าคำนึงคือคนเรานั้นมักจะมีทุกข์ใจมากกว่าทุกข์กายหลายเท่า เพราะทุกข์ใจนั้นไม่มีเกราะอะไรป้องกันได้ จะอยู่ที่ไหน ในกระต๊อบหรือคฤหาสน์ จะยามใดจะเพิ่งตื่นนอน หรือกำลังจะหลับ ความทุกข์ใจก็สามารถพุ่งทะลวงเข้ามาเกาะกุมใจได้เสมอ ทั้งยังเกิดได้โดยไม่ต้องมีเหตุอะไรแค่นึกไปถึงเรื่องที่กังวลหรือไม่ชอบใจก็ทุกข์แสนสาหัสแล้ว แต่ที่เป็นตลกร้ายก็คือเรากลับทุ่มทั้งชีวิตเพื่อใช้หาเงินมาแก้ทุกข์กายที่เรามีโอกาสเผชิญน้อยกว่า ขณะที่เรากลับให้เวลาเพียงน้อยนิดในการแสวงหาสติปัญญาอันเป็นเครื่องมือแก้ทุกข์ใจที่เราต้องประสบมากกว่า ใครกำลังเล่นตลกกับตัวเองเช่นนี้และไม่อยากที่จะมีความทุกข์ทางใจก็ควรปรับแผนชีวิต จัดสรรเวลามาหายาแก้ทุกข์ใจให้มากขึ้น ด้วยการฝึกฝนเพิ่มพูนสติอันเป็นยาคุณภาพเยี่ยมในการจัดการกับทุกข์ใจ มีสติเมื่อไหร่ก็หมดทุกข์ (ใจ) ในทันที เพราะสตินั้นจะเปลี่ยนความเห็นผิดในการไปยึดเอาวัตถุ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง เกียรติยศไปจนถึงตัวตนว่าเป็นของเราให้กลายเป็นความเห็นและทำถูกคือคืนทุกอย่างกลับสู่ธรรมชาติ กระทำตนไปตามเหตุและผล ความสามารถของสติวิเศษน่าครอบครองปานนี้ ปัญหามีเพียงสตินี้ใช้เงินซื้อไม่ได้ ไม่มีสติกระป๋องวางขาย ไม่มีสติสำเร็จรูปวางจำหน่ายไม่ว่าเราจะยอมจ่ายปานใดก็ตาม รวมทั้งไม่อาจได้มาด้วยการไปอ้อนวอนขอเอากับใคร ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่รักเรามากไปขอท่าน ท่านก็ไม่อาจให้เป็นมรดกได้ จะไปขอครูอาจารย์ที่นับถือท่านก็ไม่มีสติจะมอบให้ ไม่เว้นแม้แต่พระศาสดาอย่างพระพุทธเจ้าของเราที่ท่านก็ไม่ดลบันดาลให้สติแก่เรา ที่ท่านให้คือแนะวิธีให้เราไปทำเอาเอง และเพราะต้องขยันทำเอาเองนี่เองที่ทำให้มีอีกหนึ่งปัญหาตามมานั่นคือความ “ขี้เกียจ” การขาดแรงผลักดันที่จะพากเพียรสร้างสติให้เกิดแก่ตัว Happy+ ฉบับนี้มีเลยขอนำเทคนิกง่าย ๆ 2 ข้อที่จะช่วยให้เรามีความเพียรในการฝึกฝนตนเองจนได้ของวิเศษอย่างสตินี้มาครอบครองมาฝากกันครับ 2 ข้อนั่นก็คือ การงดบุคคลเกียจคร้าน กับการเห็นภัยในอบาย* การงดบุคคลเกียจคร้านนั้นสำคัญนักเพราะเป็นธรรมชาติที่ยามอยู่ใกล้บุคคลเช่นใดเราย่อมจะกลายเป็นดั่งบุคคลเช่นนั้น ฉะนั้นหากใกล้คนขี้เกียจเราก็จะขี้เกียจตาม เราจึงต้องงดคบคนเช่นนั้น ทั้งพยายามคบหากับคนขยันโดยเฉพาะคนที่ขยันในการศึกษาฝักใฝ่ในธรรม เข้าสังคมที่มีแต่คนขยันในทางดี เลี่ยงการรวมหมู่กับกลุ่มที่เอาแต่หลงเพลิดเพลินไปวัน ๆ นั่นคือข้อเตือนใจยามจะเข้าสังคมจากนั้นเมื่ออยู่กับตัวเองก็ใช้เทคนิกข้อที่ 2 คือให้นึกถึงอบายให้มาก แม้บางคนอาจยังแคลงใจอยู่ว่านรกจะมีจริงไหม แต่เพื่อความไม่ประมาทเราควรนึกว่ามีไว้ก่อนว่ามี ใจเราจะได้เกรงและขยันในการปฏิบัติ ซึ่งสุดท้ายหากนรกไม่มีจริงเราก็ไม่เสียหายความกลัวนรกจนไม่กล้าทำชั่วในชาตินี้นั้นย่อมยังผลดีแก่เราในปัจจุบันด้วยอยู่แล้ว กลับกันหากเราคิดเอาเองว่านรกไม่มีแต่เอาเข้าจริงเกิดมีขึ้นมา คราวนี้ความทุกข์แสนสาหัสย่อมมาเยือน แค่ขอให้ลงมือทำเคล็ดง่าย ๆ 2 ข้อนี้ คือเอาตัวห่างจากคนเกียจคร้านกับนึกถึงนรกมาก ๆ เพียงเท่านี้รับรองว่าคุณจะเกิดความมุ่งมั่นในการสร้างสิ่งดี ๆ ให้ตนเอง และนี่ละครับ DIY Do It Yourself ที่น่าทำที่สุด “สติ” ผลิตภัณฑ์ทำมือที่เราทำกับมือชิ้นนี้จะเป็น Hand Made ที่น่าภาคภูมิใจและมีคุณค่าที่สุดตลอดชั่วชีวิตของเราครับ *อิงจาก พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ – หน้าที่ 336 ว่าด้วยเหตุให้เกิดความเพียร อันประกอบด้วย 1. การพิจารณาเห็นภัยในอบาย 2. การเห็นอานิสงส์ 3. การพิจารณาวิถีทางดำเนิน 4. ความเคารพยำเกรงในบิณฑบาต 5. การพิจารณาความเป็นใหญ่แห่งการรับทรัพย์มรดก 6. การพิจารณาความมีพระศาสดาเป็นใหญ่ 7. การพิจารณาความมีชาติเป็นใหญ่ 8. การพิจารณาความมีสพหมจารีเป็นใหญ่ 9. การงดเว้นบุคคลเกียจคร้าน 10. การคบหาบุคคลผู้ปรารภความเพียร 11. ความน้อมจิตไปในวิริยสัมโพชฌงค์นั้น


แสดงความคิดเห็น