Category : Post Today

ฟุตบอลโลก

by : Admin      2014-12-04      Post Today      0 comments

คอลัมน์ ชีวิตรื่นรมย์ นสพ.โพสต์ ทูเดย์

วันอาทิตย์ที่    พฤศจิกายน 2557




        เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกเกิดขึ้นแม้โดยเนื้อแท้เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญถึงขั้นคอขาดบาดตาย    แต่ด้วยความคลั่งไคล้ที่คนทั้งโลก จึงทำให้การแข่งขันกีฬาที่เกิดขึ้นทุก 4 ปีนี้ถูกจัดลำดับความสำคัญไม่แพ้เรื่องการเมือง หรือเรื่องเศรษฐกิจเลย   ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงฟุตบอลโลก ที่ด้วยความนิยมอันมโหฬารทำให้เรื่องเล่นที่ไม่มีผลกับชีวิตกลายเป็นเรื่องจริงที่ถึงขั้นเป็นชีวิต!   เพราะพอคนดูมากหมายถึงการโฆษณาที่เข้าถึงคนจำนวนมหาศาล ต่อเนื่องคือการขายสินค้าและบริการอย่างมโหฬาร และแน่นอนย่อมส่งต่อไปถึงกำไรก้อนมหึมา  นี่ว่ากันถึงผลกระทบในรูปของผลประโยชน์เป็นรูปธรรมโดยตรง  แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันหรืออาจมากกว่าคือผลกระทบที่เป็นนามธรรมคือความคลั่งไคล้อันมหาศาลของมหาชนนั่นเอง ใครที่จับจุดตรงนี้ได้  ก็สามารถนำมาใช้สร้างประโยชน์ได้ง่าย ๆ เหมือนอย่างในบ้านเราที่ยามคนเครียดกันมากๆ กับสถานการณ์บ้านเมือง การถ่ายทอดสดฟุตบอลก็สามารถใช้เป็นยาแก้เครียดชั้นดีที่สามารถให้ความสุขแก่ประชาชนได้อย่างโดนใจ    ซึ่งในอนาคตหากฟุตบอลยังครองความนิยมในใจคนมากเช่นนี้  “การถ่ายทอดฟุตบอล”  อาจกลายเป็นนโยบายหาเสียงนโยบายหนึ่งก็เป็นได้ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าต่อไปอาจมีพรรคการเมืองสักพรรคประกาศนโยบายให้  “ดูฟุตบอลฟรี”  ถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลลีกหลักของยุตโรปทั้งพรีเมียร์ของอังกฤษ บุนเดสลีกาของเยอรมัน ลา ลีกาของสเปน ลีกเอิงของฝรั่งเศส ไปจนถึงไทยลีกของเราเองมาถ่ายทอดทอดให้ประชาชนได้ดูฟรีๆ ทุกนัด ทุกแมตช์ เพื่อความสุข และกระตุ้นให้คนรักในกีฬา การออกกำลังกาย ไม่แน่ว่านโยบายนี้อาจได้คะแนนเสียงมหาศาล         

ไม่ได้เขียนเรื่องฟุตบอลโลกเพื่อจะมาเรียกร้องให้พรรคไหนทำประชานิยมให้นะครับ แต่เพราะไปได้ยินคำถามชวนคุยในรายการวิเคราะห์ฟุตบอลอยู่รายการที่เขาเปิดสายให้คนดูโทรเข้าไปตอบคำถามว่า "นิยามของ ฟุตบอลโลก คืออะไร ? ”   ได้ยินแล้วก็อดคิดเล่น ๆ ตามที่เขาถามไม่ได้ คิดแล้วเลยอยากชวนคุณคิดด้วยว่าถ้าคุณจะจำกัดความฟุตบอลโลกนั้นคุณจะให้นิยามว่าอะไร   คำตอบอาจได้เป็น   “กีฬาของคนทั้งโลก”   “เกมของมวลมนุษยชาติ”  หรืออาจออกแนวดราม่าหน่อยอย่าง “ลมหายใจของชีวิต” หรือ “วันนี้ที่รอคอย”   ก็ว่ากันไปครับ   แต่สำหรับผม ผมอยากนิยามฟุตบอลโลกว่าคือ “ความไร้ซึ่งเหตุผล ที่มีเหตุผล”  ไร้เหตุผลที่คนหลายพันล้านคนมาดูลูกกลมๆ ลูกเดียว แต่ที่มีเหตุผลก็เพราะความที่มีลูกเดียวให้แย่งกันนั่นเอง และนี่ถือเป็นเสน่ห์ของการแย่งชิงที่ชวนให้มีผู้ติดตามได้ลุ้นผลเหมือนคนจำนวนหนึ่งที่ชอบดูละครแย่งผัว แย่งเมียกัน

มองมุมนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกก็จะเป็นดั่งที่ว่าคือไร้เหตุผลแบบมีเหตุผลอันพอจะเป็นที่ยอมรับได้ แต่ยังมีการแข่งขันอีกเรื่องที่เป็นเรื่องระดับโลกยิ่งกว่าแต่กลับเป็นเรื่องไร้เหตุผล ที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง นั่นคือ การแข่งขันกันทางเศรษฐกิจ

ก็อย่างน้อยลูกฟุตบอลที่แย่งกันในสนามก็มีลูกเดียวจริง ๆ แต่ผลประโยชน์ที่แย่งกันจะเป็น จะตายบนโลก แท้จริงแล้วไม่ได้มีเพียงเค้กก้อนเดียวให้แย่ง กลับกัน โลกมีเค้กเพียงพอให้คนทุกคนได้กิน อาหารการกินก็สามารถเพาะปลูกให้พอเพียงเลี้ยงคนทั้งโลกได้  ที่พักอาศัยโลกก็มีไม้ มีหินพอเพียงจะนำไปสร้างบ้านให้ทุกคนอยู่ได้ ยารักษาโลกก็มีสมุนไพร มีพืช หรือจะสารเคมีโลกก็สามารถผลิตได้มากพอปรุงยาสำหรับทุกคน หรือเสื้อผ้า มนุษย์ก็สามารถหาสิ่งของบนโลกมาปกปิดของสงวนกันได้ทุกคน  แต่เพราะความ “ไม่พอ” ในใจคนต่างหากที่ทำให้ของนั้นขาดไป ที่สำคัญอีกเรื่องคือดูบอลกันหามรุ่ง หามค่ำ อดตาหลับขับตานอนกันแค่ไหน แต่เมื่อเกมจบเราก็รู้ว่านั่นเราคลั่งกับเรื่องเล่น ๆ ไปด้วยความสมัครใจเอง แต่ที่การหั่นหั่นทางการค้าที่เราดิ้นรนแข่งขัน แย่งชิงผลประโยชน์กันหนักหนา จนบางคราเกือบเอาชีวิตไม่รอดนั้น ไม่มีเสียงนกหวีดเป่าจบเกมให้เราได้ตื่นขึ้นมาสำนึกถึงความคลั่งอันไร้เหตุผลของมันเหมือนฟุตบอล เว้นแต่เราจะยอมตื่นขึ้นมาเอง ตื่นมาดู และเล่นเกมเศรษฐกิจนี้อย่างเข้าใจถึงความไม่มีสาระแันแท้จริงของมัน เป็นสักแต่เกม ๆ หนึ่งที่โลกนี้ใช้เล่นกัน

ปิดท้ายคอลัมน์นี้คงไม่มีวลีสรุปใดดีไปกว่าวลีอมตะจากปูชนียบุคคลอย่างท่านมหาตมะ คานธีที่ท่านกล่าวว่า     

โลกมีทรัพยากรเพียงพอสำหรับคนทุกคน แต่ไม่พอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว    “The world has enough for everyone’s need, but not enough for everyone’s greed.”


แสดงความคิดเห็น